ข้อมูลเมืองเล็กซานเดรีย
Update : 19 มกราคม 2560
อเล็กซานเดรีย (Alexandria) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นลำดับที่สองรองจาก กรุงไคโร ( Cairo ) ของประเทศอียิปต์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ใกล้ปากแม่น้ำไนล์และอยู่ห่างจากกรุงไคโรประมาณ 200 กิโลเมตร ปัจจุบัน มีประชากรราว 6 ล้านคน เมืองนี้มีการทำอุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย เช่น ทอผ้า ผลิตอาหาร เครื่องหนัง บุหรี่ เบียร์ และเหล้าองุ่น เป็นต้น
เมืองอเล็กซานเดรีย แบ่งเขตการปกครอง ทั้งสิ้นออกเป็น 5 เขต คือ
1. A (Alpha) เป็นเขตที่ตั้งของพระราชวังหลวง, วัด, พิพิธภัณฑ์ห้องสมุดและสวนต่างๆ
2. B (Beta) เป็นเขตชนชั้นสูงกรีก
3. G (Gamma) เป็นเขตของผู้ย้ายถิ่นฐานชาวกรีก
4. D (Delta) เป็นเขตของชนกลุ่มน้อยต่างชาติ เช่น ชาวซีเรีย , เปอร์เซีย และ ชาวยิว
5. E (Epsilon) เป็นเขตสำหรับชาวพื้นเมืองอียิปต์
ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า พระเจ้า Alexander มหาราชคือผู้ที่ทรงบัญชาให้สร้างเมืองนี้ขึ้นมาเมื่อ 331 ปีก่อนคริสตกาล แต่พระองค์ ได้สิ้นพระชนม์ไปก่อนที่เมืองจะถูกสร้างเสร็จ เมื่อถึงยุคของฟาโรห์ ราชวงศ์ Ptolemy ตัวเมืองได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองท่าที่สำคัญ เป็นศูนย์กลางของวิชาการและวัฒนธรรม Alexandria จึงเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกยุคนั้น นักประวัติศาสตร์ชาวโรมันชื่อ Stribo ที่ได้ไปเยือนเมืองนี้เมื่อ 25ปีก่อนคริสตกาลได้บันทึกว่า เมืองมีพระราชวัง ปราสาท สถานอาบน้ำและห้องอาหารมากมาย นอกจากนี้ก็มีห้องสมุด Alexandria ซึ่งถือกันว่าเป็นห้องสมุดแห่งแรกของโลกที่สะสมวรรณกรรม วรรณคดี และสิ่งขีดเขียน ทุกรูปแบบในสมัยนั้นไว้อย่างสมบูรณ์ด้วย และเกาะ Pharos ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และอยู่ไม่ไกลจาก Alexandria นัก ก็ได้เคยเป็นสถานที่ตั้งของประภาคาร Pharos ที่เป็นหนึ่งในเจ็ดของสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ แต่ว่าตอนนี้ ประภาคารนี้ได้ถูกทำลายไปแล้วจากเหตุแผ่นดิน
แต่เมื่ออียิปต์ถูกกองทัพโรมันของ Caesar ยึดครอง การต่อสู้ระหว่างยิว อาหรับ มุสลิม และโรมันที่ได้เกิดขึ้นเนืองๆ ได้ทำให้ความ เจริญรุ่งเรืองของ Alexandria เริ่มลด และเมื่ออาณาจักรโรมันล่มสลาย Alexandria ก็ยิ่งเสื่อมลงไปอีก ในปี ค.ศ. 640 กองทัพ อาหรับซึ่งมี Amr ibn al As ได้เข้าโจมตีเมือง Alexandria และบุกยึดเมืองได้สำเร็จเพราะจักรพรรดิ Heraclius ของโรมัน ยุคนั้นมิได้ทรงส่งกองทัพเรือมาช่วยแม้แต่ลำเดียว Amr จึงยึดเมือง Alexandria ได้ในเวลา 14 เดือน จากนั้นกองทัพอาหรับ ก็ได้สถาปนากรุง Cairo ขึ้นเป็นเมืองหลวงของอียิปต์ในปี ค.ศ. 969 การสูญสลายความสำคัญของ Alexandria ก็ยิ่งมีมากขึ้นไปอีก
Alexandria ได้รับการฟื้นคืนชีพอีกครั้งหนึ่งในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยรัฐบุรุษชื่อ Mohammad Ali ที่ได้คิดสร้างท่าเรือและ วางทางรถไฟเชื่อมระหว่าง Cairo กับ Alexandria ซึ่งทางรถไฟสายแรกนี้ได้ทำให้ความเจริญรุ่งเรืองเริ่มกลับ มาสู่ Alexandria อีกครั้งหนึ่ง คนยุโรปเริ่มอพยพเข้ามาตั้งรกรากทำมาหากินในเมือง การมีผู้คนเดินทางมาเยี่ยมชมเมือง ทำให้มีการก่อสร้างโรงแรม มีสถานที่ตากอากาศมากมาย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง กองทัพสัมพันธมิตรได้เคยใช้ Alexandria เป็นฐานทัพเรือด้วย
ในปัจจุบัน Alexandria ได้รับการพัฒนาจากรัฐบาลอียิปต์ โดยรัฐบาลได้มีโครงการพัฒนา มากมายเช่น กำลังจะสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำขึ้นเป็นแห่งแรกของโลกที่เมืองนี้ เพราะเมื่อ 5 ปีก่อนนี้ F. Goddio นักโบราณคดีชาวฝรั่งเศสได้ดำน้ำลงไปพบซากเมืองโบราณที่ได้จมอยู่ใต้ทะเลใกล้เมือง Alexandria การศึกษาก้อนหินที่สลักหักพังทำให้ Goddio รู้ว่าเมื่อ 1,600 ปีมาแล้วได้เกิดเหตุการแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทำให้ส่วนหนึ่งของเมืองได้จมลงในทะเล นอกจากนี้ Goddio ยังได้พบรูปปั้น 2 รูปจมอยู่ใต้น้ำใกล้เกาะ Antirhodos ด้วย ซึ่งเกาะๆ นี้เคยเป็นที่ตั้งของพระราชวังของพระนาง Cleopatra รูปปั้นหนึ่งเป็นสฟิงซ์ที่หนัก 23 ตัน และมีใบหน้าที่แสดงว่าเป็นพระพักตร์ของ Philadelphus ผู้เป็นพระบิดาของพระนาง Cleopatra ส่วนอีกรูปปั้นหนึ่งเป็นรูปของเทพเจ้า Isis รัฐบาลอียิปต์นั้น ต้องการให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะเปิดเพื่อให้คนเข้าเยี่ยมชมโดยใช้เรือท้องกระจก และให้ผู้ชมเดินผ่านอุโมงค์แก้ว ใต้น้ำและเมื่อองค์การ UNESCO รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ก็เห็นด้วยกับโครงการนี้
นอกจากโครงการพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำแล้ว เมือง Alexandria ยังมีโครงการฟื้นคืนชีพห้องสมุดยุคก่อนประวัติศาสตร์ด้วย โดยคาดหวัง ที่จะให้ Bibliotheca Alexandrina มีชื่อเทียบเท่าห้องสมุด Centre Pompidou ในปารีส ห้องสมุด Library of Congress ใน Washington D.C. และห้องสมุด British Library ในลอนดอน อันห้องสมุด Alexandria ในอดีตนั้น ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์ราชวงศ์ Ptolemy เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล การมีหนังสือ วรรณกรรมและสิ่งขีดเขียนอย่างสมบูรณ์ได้ทำให้ Alexandria เป็นห้องสมุดที่ดีที่สุดในโลกใน Alexandrina ยุคนั้นและเป็นศูนย์วิทยาการ ที่นักปราชญ์ทุกคนจะต้องไปเยือน ประวัติศาสตร์ได้จารึกว่า Euclid ได้เคยสอนวิชาเรขาคณิตที่ห้องสมุดนี้ และ Eratosthenes ผู้พิสูจน์ว่าโลกกลมเป็นคนแรกก็เคยทำงานเป็นบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดนี้ (นี่ถ้าพรรคการเมืองไหนในประเทศไทย มีนโยบายทำห้องสมุดแบบนี่ ก็คงจะดี)
ในเมืองอเล็กซานเดรีย ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสุสานแห่ง อเล็กซานเดรีย เป็นอุโมงค์ที่เก็บศพ และทรัพย์สมบัติของกษัตริย์อียิปต์โบราณ อุโมงค์ฝังศพนี้ มีชื่อเรียกว่า คาตาโคมบ์ (Catacombs) เป็นอุโมงค์ที่สร้างด้วย หินก้อนใหญ่ ๆ และ ขุดลึกลงไปเป็นชั้นๆ บางตอนลึกถึง 21 ถึง 24 เมตร (70-80 ฟุต) มีทางเดินกว้างถึง 1.2 เมตร (3-4 ฟุต) วกไปเวียนมา เป็นระยะทางหลาย ๆ กิโลเมตร ตามริมผนังของอุโมงค์เป็นช่อง ๆ ไว้ สำหรับเป็นที่ บรรจุศพ มีแท่นบูชาอยู่หน้าช่องบรรจุศพเหล่านั้น พร้อมตะเกียงดวงเล็กๆ แขวนไว้ บางส่วนของอุโมงค์ตกแต่ง ทั่ว ๆ ไปไว้อย่างวิจิตรงดงาม ปัจจุบันยังคงมีสภาพสมบูรณ์ และในเมือง Alexandria ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Montazah palace and gardens ที่เป็นทั้งวังและสวน ถือเป็น 1 หนึ่งในสถานที่ที่น่าอัศจรรย์ในช่วงฤดูร้อน ของเมืองนี้ ซึ่งตั้งอยู่บนป้านหินที่มองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
ที่มา / อ้างอิง
1.http://www.ask-aladdin.com/alexandria.html
2.http://en.wikipedia.org/wiki/Alexandria
3.http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=26896